วันพุธที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2568 นายชาญณรงค์ วิรุณสาร เกษตรจังหวัดสิงห์บุรี พร้อมด้วย หัวหน้ากลุ่ม เกษตรอำเภอ เเละเจ้าหน้าที่นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร ทั้งระดับจังหวัดเเละระดับอำเภอ เข้าร่วมการอบรมเพื่อพัฒนาวิทยากร หลักสูตร “การทำนาด้วยเทคโนโลยีที่เท่าทันต่อภูมิอากาศ” ณ ห้องจัดเลี้ยงเกษรา เบเกอรี่ อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี โดยมี นายวราดิศร อ่อนนุช รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เป็นประธานในพิธีเปิดฯ
การอบรมฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเจ้าหน้าที่และเกษตรกรให้มีความรู้ถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อการปลูกข้าว และสามารถใช้เทคโนโลยีในกระบวนการทำนาได้อย่างเหมาะสม เพื่อให้เกษตรกรสามารถหลีกเลี่ยงลดผลกระทบและเสริมสร้างศักยภาพการปรับตัวต่อสภาพอากาศที่มีความแปรปรวนอันเนื่องมาจากภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศได้
โครงการฯ ดังกล่าว เป็นการเตรียมความพร้อมรับมือต่อภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยกรมส่งเสริมการเกษตร กรมการข้าว และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จึงได้มีความร่วมมือกับองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน จัดทำโครงการเพิ่มศักยภาพการปลูกข้าวที่เท่าทันต่อภูมิอากาศ หรือโครงการ THAI RICE GCF ที่ได้รับทุนให้ดำเนินงานโครงการจากกองทุนภูมิอากาศสีเขียว (Green Climate Fund : GCF)
ในการจัดการอบรมเพื่อพัฒนาวิทยากร หลักสูตร “การทำนาด้วยเทคโนโลยีที่เท่าทันต่อภูมิอากาศ” มีบุคคลเป้าหมายในการอบรม ประกอบด้วย บุคลากรสำนักงานเกษตรจังหวัด ระดับอำเภอ และตำบล รวมจำนวน 48 ราย บุคลากรศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าว จำนวน 3 ราย และบุคลากรธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จำนวน 5 ราย รวมทั้งสิ้น 56 ราย โดยมีจุดมุ่งหมายในการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ไปสู่การทำนาที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ และเสริมสร้างศักยภาพในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่งเสริมการนำเทคโนโลยีที่เท่าทันต่อภูมิอากศมาปรับใช้และขยายผลสู่เกษตรกร จำนวน 11 เทคโนโลยี ได้แก่
1. การใช้ข้อมูลพยากรณ์อากาศ
2. การใช้พันธุ์ข้าวที่เหฆาะสม
3. การปรับระดับพื้นที่ด้วยเซอร์
4. การหว่านหรือหยอดข้าวแห้ง
5. การทำนาเปียกสลับแห้ง
6. การจัดการน้ำระดับแปลงนา
7. การปลูกพืชหลังนา
8. การใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตร
9. การจัดการธาตุอาหาร
10. การจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสมผสาน
11. การจัดการฟางข้าวและตอซังข้าว
ซึ่งหลังจากการอบรมในวันนี้ วิทยากรระดับอำเภอ ตำบล จะต้องถ่ายทอดความรู้ให้กับเกษตรกรในจังหวัดสิงห์บุรี จำนวน 3,700 ราย จากนั้นผู้ที่ผ่านการประเมิน จำนวน 1,300 ราย จะเข้าสู่กระบวนการพัฒนาการอบรมและขอรับมาตรการสนับสนุนทางการเงินต่อไป









